เราล้วนปรารถนา 'ความปรีดีในชีวิต' ยิ่งสำหรับผู้พิการด้วยแล้วความปรารถนานี้ยิ่งสำคัญมากขึ้น และนี่คือที่มาของชื่อ "บ้านสนุก" 
ภายใต้การดำเนินการของ "มูลนิธิบ้านสมานใจ" ซึ่งกลุ่มผู้ปกครอง ได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2548 โดยมีหลักการง่ายๆ ธรรมดาๆ ที่จะให้โอกาสแก่ผู้พิการ(ทางสติปัญญาเป็นส่วนใหญ่) ที่บ้านสมานใจมีสินค้าคุณภาพดีราคาถูกที่ถูกทำขึ้นจากผ้าทอซาโอริซึ่งผ้าทอเหล่านี้มาจากฝีมือน้องๆ ที่เป็นเด็กพิเศษ ที่สร้างสรรค์ลวดลายของผ้าได้อย่างไม่ซ้ำใคร และน้องจะได้ฝึกสมาธิจากการทำงานด้ว สนใจสินค้าสามารถเข้าไปชมได้ที่ เพจผ้าทอซาโอริบ้านสมานใจ  หรือที่ "บ้านสนุก" เลขที่ 2 ถนนหน้าวัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โทรศัพท์ / โทรสาร 053 244393 อีเมล์ : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. 
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 10:00 - 17:00


เกี่ยวกับมูลนิธิ บ้านสมานใจ
ประการแรก ผุ้พิการทางสติปัญญาจะทำงานอะไรได้ดีที่สุด ?
เราได้มิตรชาวญี่ปุ่นช่วยออกแบบกี่ทอผ้าที่เอื้อผู้พิการให้สามารถทอผ้าได้สะดวกง่ายขึ้น ผ้าแต่ละผืนที่ทอขึ้นต่างก็มีลักษณะเฉพาะ และสวยงาม ตามความรู้สึกของเรา


ประการที่สอง จะนำผ้าเหล่านี้ไปทำอะไร?
เราต้องขอบคุณอาสาสมัครชาวญี่ปุ่นผู้สามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปะอีกครั้งที่ช่วยให้เราได้นำผ้ามาแปรเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่างเช่น ประดับเสื้อยืด ผู้าปูโต๊ะ เนคไท กระดุม บัตรอวยพร จานรองแก้ว กรอบรูป ฯลฯ เราเชื่อมั่นว่า จากการออกแบบ และการทำอย่างพิถีพิถันนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ นี้มีคุณค่าน่าซื้อหา


ประการทีสาม เราผลิตขึ้นเพื่อขายใคร ?
ส่วนใหญ่ผู้อุดหนุนซื้อผลิตภัณฑ์ของเราคือผู้มาเยี่ยมหาเราที่ บ้านสนุก ซึ่งเรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ ทำให้เรามีรายได้เพื่อใช้จ่ายบางรายการ เรื่องสถานะทางการเงินนั้นเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่กำหนดอนาคตของเรา จึงจำเป็นต้องหารายได้จากทางอื่นๆ มาเสริมนับว่าเราโชคดีที่ทั้งบุคคล และองค์กรทั้งไทย และเทศได้อุปการะทางการเงิน และวัสดุสิ่งของให้เราทำงานอย่างต่อเนื่องมา
ประการที่สี่ เราสามารถทำอะไรตอบแทนสังคมได้บ้าง?
จริงอยู่ที่เรามีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน เช่นพื้นที่ บุคลากรความารถในการบริหารงาน ฯลฯ กระนั้นเราก็เชื่อว่าในบางเรื่องนั้นอาจมีประโยชน์ที่ใครๆ สามารถจะมาเรียนรู้ได้ มูลนิธิฯของเราอาจจะเป็นจุุดเริ่มต้น เพื่อคิดหารทางพัฒนาช่วยเหลือผู้พิการอื่นๆ ได้ต่อไป การรณรงค์เพื่อสิทธิคนพิการก็เป็นอีกงานที่ได้พยายามกันขึ้น นอกจากนั้นเนื่องจาก บ้านสนุก อยู่ในบริเวณที่ไปมาสะดวก เราจึงปวารณา เป็นศูนย์รับบริจาคเสื้อผ้าสำหรับผู้ขาดแคลนในพื้นที่สูง เราตั้งปณิธานที่จะดำเนิน และขายกิจกรรมชุมชนเหล่านี้ให้มากขึ้นต่อไป

 


ประการที่ห้า คือคำถามว่า นอกเหนือจากการทำงานแล้วทำอย่างไรชีวิตผู้พิการจะมีสีสันยิ่งขึ้น?
การเต้นประกอบดนตรี การรับประทานอาหารร่วมกันนับเป็นกิจกรรมที่ทำอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อโอกาสอำนวย เราก็จัดทัศนาจรไปสถานที่ต่างๆ และจังหวัดอื่นๆ


ประการสุดท้าย คือเรื่องวิสัยทัศน์ เราจะทำอะไรกันต่อไปในอนาคตข้างหน้า?
คำถามนี้สำคัญมาก และถามกันบ่อยๆ แต่เรายังไม่มีคำตอบชัดเจน แต่ถ้าพูดึงความฝันเราฝันเห็นที่จะมีบ้านให้ผู้พิการได้อยู่ร่วมกันอย่างไม่เป็นภาระแก่ใครโดยมีผู้คอยช่วยเหลือดูแลเท่าที่จำเป็น แต่เรื่องนี้ยังไม่ถึงกับเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็จะถึงวัยเป็นไม้ใกล้ฝั่งกันในอนาคต เราก็คงจะต้องมาคิดถึงปัญหานี้กันต่อไปข้างหน้า บนเส้นทางทีจะบรรลุเงื่อนไขต่างๆ นี้ เราก็ประสบทั้งผลสำเร็จ และความล้มเหลวแต่ทั้งสองด้านนี้ก็มีส่วนเสริมให้เรามุ่งสู่ความเจริญข้างหน้าเราต่างก็ด้อยความสามารถกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในแง่หนึ่งนั้นความไร้ความสามารถย่อมหมายถึง ความพิการแต่ในอีกแง่นึง ความพิการก็สามารถนำความร่วมมือร่วมใจกันเพื่อให้เราได้ชื่นชมยินดีกับสิ่งมีชีวิตได้มอบให้กับเราทุกคน