ศาลอาญาจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา “เปรมชัย”เจ้าสัวอิตาเลียนไทย สารภาพครอบครองอาวุธปืนไรเฟิล แถลงขอศาลลงโทษสถานเบา แลกทำ 3 ข้อ บวชถวายพระราชกุศล-บริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้าน เพื่อสังคม-ไม่ยุ่งเกี่ยวปืนตลอดชีวิต

10.00 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490

โดยอัยการยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 61 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.  ซึ่ง “นายเปรมชัย” จำเลยได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณา 200,000 บาทโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ

ซึ่งคดีนี้ในชั้นสอบคำให้การจำเลย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 “นายเปรมชัย” เคยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นัดเริ่มสืบพยานโจทก์ “นายเปรมชัย” จำเลย ได้แถลงให้การคำรับสารภาพ พร้อมยื่นคำร้องประกอบต่อศาลเพื่อพิจารณา

ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจประวัติครอบครัว การศึกษา การทำงาน และอื่นๆ ของจำเลย และรายงานให้ศาลทราบภายใน 30 วันเพื่อประกอบการพิจารณา

ซึ่งวันนี้นายเปรมชัย ที่ได้รับการประกันตัวในชั้นพิจารณา 200,000 บาทก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ และก่อนฟังคำพิพากษานายเปรมชัยมอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญา

โดยระบุว่า 1.จำเลยจะขออุปสมบท (บวช) ที่วัดบวรนิเวศหรือวัดอื่นเป็นเวลา 15 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 2.จำเลยจะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาทเพื่อเป็นการสาธารณประโยชน์ และ 3.จำเลยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกตลอดชีวิต

ขณะที่ศาลแจ้งให้ฝ่ายจำเลยทราบว่า อัยการโจทก์ได้ขอแก้ไขคำฟ้องโดยระบุเพิ่มเติมว่า ในการครอบครองยังมีกระสุนปืนไรเฟิลอีกจำนวน 3 นัด ซึ่งสอบถามฝ่ายจำเลยแล้วก็ได้ตรวจสอบกับรายงานการตรวจพิสูจน์แล้วไม่คัดค้าน โดยจำเลยยังคงยืนยันให้การรับสารภาพ

อย่างไรก็ดีศาล พิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวซึ่งผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษจำคุก 1 ปีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 , 72 วรรคหนึ่ง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือนแต่เนื่องจากจำเลย ยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดีในศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พฤติการณ์จึงไม่รอการลงโทษ

ทั้งนี้เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ศาลก็ได้อธิบายให้ “นายเปรมชัย” ฟังว่าคำร้องที่ “นายเปรมชัย” ยื่นมาในวันนี้ระบุจะปฏิบัติ 3 ข้อนั้นหากปฏิบัติได้ก็ขอให้ทำต่อไปซึ่งเป็นการทำความดี แต่ในส่วนของการรอการลงโทษนั้นเนื่องจาก “นายเปรมชัย” ยังมีคดีอาญาที่ศาลพิพากษาจำคุกอยู่ 2 คดีจึงไม่อาจที่จะพิจารณารอการลงโทษได้

ภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัยเป็นเวลา 6 เดือน แล้วทางทนายความ ก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยทนายระบุว่าใช้หลักทรัพย์เดิน 200,000 บาทยื่นประกันพร้อมเพิ่มเติมเงินสด อีก 300,000 บาท รวมหลักทรัพย์ที่ยื่น 500,000 บาท